สุดยอดรีสอร์ท5ดาวมัลดีฟส์ KURAMATHI @ MALDIVES

ทัวร์มัลดีฟ ที่พักมัลดีฟ Package Maldives พักที่ไหนดี รีสอร์ทไหนเด็ด เป็นคำถามที่ลูกค้าถามผมบ่อย มากๆครับ แน่นอนว่าผมก็พยายามสรรหารีสอร์ทหรือโรงแรมที่ดีที่สุดให้ลูกค้าเสมอ ซึ่งรีสอร์ทที่ผมกำลังจะพูดถึงนี้ ก็เป็น 1 ในรีสอร์ท ที่ผมไปแล้วประทับใจมากๆ เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังครับ

กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมได้รับเกียรติจาก MR. Muneer และ Kuramathi Resort Maldives จากการเป็นตัวแทนบริษัททัวร์ที่ขาย ทัวร์มัลดีฟ Package Maldives ในประเทศไทยให้ไปเยี่ยมชมรีสอร์ทที่มัลดีฟส์  ด้วยเพราะ ทาง Kuramathi Resort Maldives  เห็นว่า พาราไดซ์อินเตอร์ทัวร์ มียอดในการนำนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเที่ยวประเทศมัลดีฟติดอันดับต้นๆ

Kuramathi Resort Maldives ถือเป็นรีสอร์ท 5 ดาวสุดหรูแห่งหนึ่งของ มัลดีฟส์ ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวขนาดใหญ่ การเดินทางสู่เกาะทำได้ 2 แบบคือ เดินทางด้วย Seaplane ใช้เวลาเพียง 20 นาที และอีกแบบคือนั่งเรือ Speed Boat ผมเลยคิดว่าเคยนั่งSaeplane มาหลายครั้งแล้ว เที่ยวนี้ผมอยากลองนั่ง Speed Boat ยาวๆดูว่าจะเป็นอย่างไร โอ้ววว... โห นั่งเรือฝ่าคลื่นกลางทะเลไป 1.30 ชม(ในวันที่ผมไปคลื่นแรงมาก) ผลก็คือเมื่อถึงเกาะแทบเดินไม่เป็นเชียวล่ะ ดังนั้นขอแนะนำเพื่อนๆว่า อย่าริอ่านลองโดยไม่จำเป็นอย่างเด็ดขาด

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทางรีสอร์ท จัดเต็มทันที พาผมนั่นรถกอล์ฟไปดูห้องต่างๆแบบละเอียดยิบ ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ เพื่อให้มีรายละเอียดมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง  ตามผมมาเลยครับเผื่อที่นี่จะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในใจคุณ

ที่ Kuramathi Resort Maldives มีห้องพักมากมายถึง 360 ห้อง แบ่งเป็น 12 Type

1.Garden villas พื้นที่ 42 ตรม.มีทั้งหมด 12 ห้อง เป็นห้องพักใกล้ชายหาดมากๆ และรายล้อมไปด้วยต้นไม้ทำให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวมากๆไม่ต้องกลัวใครแอบส่อง เพราะความพิเศษของห้องนี้อยู่ที่ห้องน้ำครับ ห้องน้ำเป็นแบบ open air  ฝักบัวเป็นแบบสายฝน มองฟ้า มองดาวยามค่ำคืนได้สบายใจจำลองบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิดสุดๆ

2.Beach villas พื้นที่ 70 ตรม.มีทั้งหมด 71 ห้อง อยู่ติดชายหาด วิ่งลงทะเลสบายๆ ลักษณะภายในก็จะเหมือนแบบแรก แต่ห้องจะกว้างกว่า พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันๆมาก

3.Beach villas with jacuzzi พื้นที่ 90 ตรม.มีทั้งหมด 33 ห้อง ห้องใหญ่ขึ้นมาอี๊ก อยู่ท่ามกลางสวนและต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบเช่นกัน ภายในห้องจัดเตียงดูหรูหราสมฐานะ

ด้านหน้าติดชายหาดวิ่ง 5 ก้าว ก็คือทะเลเลย ฟีลธรรมชาติมากๆ แถมมีอ่างจากุซซี่ในห้องด้วย เปิดประตูหน้าต่างรับลมทะเลพร้อมแช่อ่างจากุซซี่พร้อมกัน 2 คน ดูฟ้าดูดาวกันไป คงฟินน่าดู

4.Superior beach villas with jacuzzi พื้นที่ 90 ตรม. มีทั้งหมด 35 ห้อง ห้องนี้คือการเอาห้องแบบที่ 3 มามิกซ์กันเลยก็ว่าได้ทั้งห้องอาบน้ำเปิดโล่ง พร้อมอ่างจากุซซี่ ห้องพักตกแต่งสไตล์มินิมอล มีเตียงอาบแดด พร้อมทั้งมีเครื่องทำกาแฟเอสเพรสโซ่ด้วยครับ

5.Deluxe beach villas with jacuzzi พื้นที่ 95 ตรม.มีทั้งหมด 31 ห้อง ห้องนี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาบแดด มากๆ ทั้งเตียงอาบแดด ร่มกันแดดครบครันมาก เปิดประตูออกมาอาบแดดรับลมทะเลได้เลยครับ

6 .Two Bedroom beach house พื้นที่ 205 ตรม. มีทั้งหมด 35 ห้อง เป็นห้องพักติดชายหาด ผมว่าห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่สุด สามารถเข้าพักได้ 6 คน มี 2 เตียงคิงไซส์ มีการแบ่งโซนเป็น 2 ชั้น ให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า มองเห็นวิวทะเลและประการังสวยๆได้เลยครับ

ทีนี้ก็มาถึงห้องที่ทุกคนรอคอย คือห้องพักกลางน้ำ มัลดีฟพักบนน้ำ ที่พักมัลดีฟ water villas แล้วแต่จะเรียก

7.Water villas with jacuzzi พื้นที่90 ตรม. มีทั้งหมด 50 ห้อง  ที่ห้องนี้ผ่อนคลายเป็นส่วนตัวสุดๆ นอนอาบแดดพร้อมชมวิวมหาสมุทรอินเดียได้แบบพาโรนาม่า ห้องพักกว้างขวางมองเห็นปะการังด้านล่าง มีบันไดลงไปถึงทะเลเลยทีเดียว

8.Deluxe water villas พื้นที่ 115 ตรม.มีทั้งหมด 30 ห้อง ห้องนี้แหล่ะที่ทางรีสอร์ทจัดให้ผมเข้าพัก เป็นห้องกลางน้ำ เตียงขนาดคิงไซส์ และมีเตียงอาบแดดหน้าห้อง ซึ่งพื้นที่ตรงส่วนนี้ กว้างมากจริงๆ ภายในห้องมีมินิบาร์ขนาดเล็กด้วย ที่พิเศษคือมีบันไดให้ลงไปเล่นน้ำเลย

9.Water villas with pool พื้นที่ 142 ตรม. มีทั้งหมด 33 ห้อง ห้องนี้จะคล้ายๆ  Deluxe water villas แต่ที่พิเศษคือนอกจากได้ชมวิวทะเล แนวประการังสวยๆจากห้องพักแล้ว ยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวในห้องพักอีกด้วย

10.Pool villas พื้นที่ 165 ตรม.มีทั้งหมด 12 ห้อง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นห้องที่มีสระ ใครชอบห้องพักมัลดีฟมีสระส่วนตัวก็น่าสนใจไม่น้อยครับ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ครบครัน แต่ติดนิดเดียวคือเราไม่สามารถเดินลงหาดจากสระของเราเองได้ ต้องเปิดประตูออกทางหน้าห้องอีกที

11.Thundi water villas with pool พื้นที่ 142 ตรม. มีทั้งหมด 16 ห้อง ถือเป็นห้องกลางน้ำที่TOPสุด ของที่นี่ครับ ด้วยขนาดห้องที่ใหญ่มากๆ และอยู่แยกออกมา เป็นโซนกลางน้ำที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เรียกว่า อยากได้ห้องกลางน้ำเทพๆก็ต้อง Type นี้แหล่ะ ถ้างบถึง และต้องการความเป็น Luxury ต้องจัดห้องนี้แหล่ะ

และ Type ที่12 สุดเทพ และเทพสุดๆ Honeymoon pool villas ห้องนี้สร้างได้โรแมนติคเหมาะกับคู่รักที่มาเที่ยว มาฮันนีมูนสุดๆ โซนห้องนอนแยกกับโซนห้องนั่งเล่น ห้องน้ำแบบเปิดโล่ง โดยเฉพาะสระว่ายน้ำยาวยังกะจะเอาไว้ให้คู่รักซ้อมแข่งโอลิมปิค ยังไงยังงั้น

จบเรื่องห้องพักเรามาต่อกันเรื่องอาหาร เมื่อมีห้องพักมากมาย การจัดการเรื่องอาหารจึงสำคัญ เพื่อไม่ให้เกิดการแออัดตอนทานข้าว ทางรีสอร์ทจึงจัดเตรียมห้องอาหารไว้ถึง 12 ห้อง แบ่งตามโซนห้องพัก ใครพักที่ไหนไปทานกันที่โซนนั้นๆ แต่หากเราต้องการไปโซนอื่นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า  เค้าก็จะทำการเชคให้ว่าจะสามารถเข้าไปทานได้หรือป่าว โดยแพคเก็จอาหารก็มีทั้งแบบ All inclusive หรือจะเป็น Half Board ก็ตามสะดวก ห้องอาหารทั้งหมดประกอบด้วย

1.Haruge

2.Malaafaiy

3.Farivalhu Restaurants 3 ห้องแรกนี้เป็นห้องอาหารหลัก จะเป็นธีมอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ

4.Palm มีซีฟู๊ดสดๆจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตบท้ายด้วยนั่งทานไอศครีมโฮมเมด ใต้ต้นปาล์ม

5.Tandoor mahal อาหารอินเดียแบบดั้งเดิม ใครอยากสัมผัสประสบการณ์อาหารอินเดียต้นตำรับต้องห้องนี้เลยครับ

6.Island coffee shop ห้องนี้เป็นห้องอาหารสไตล์คอฟฟี่ชอป เปิดให้บริการทั้งวันและเป็นห้องเปิดนั่งรับลมทะเล นั่งกันเพลินๆได้ทั้งวันเลยเชียว

7.Siam garden ห้องอาหารไทย เรียกว่าคนไทยอย่างเรากินอิ่ม นอนหลับ ก็ห้องนี้แหล่ะครับ

8.The Reef เป็นห้องอาหารที่สร้างยื่นออกไปในทะเล บรรยากาศดีมากๆ ครับ

(ห้องอาหาร 5 – 8 เปิดให้บริการเฉพาะตอนเย็น 19.00 – 22.30)

9.Duniye

10.Inguru เสริฟเมนูเบาๆระหว่างวัน ในส่วนของมื้อเย็นจะเสริฟอาหารเอเชี่ยนฟิวชั่นที่ทำออกมาอย่างประณีต

11.Island Barbecue สายปิ้งย่างต้องห้องนี้เลยครับ นั่งปิ่งบาร์บีคิว พร้อมชมวิวริมสระน้ำชิลๆครับ

12.Kobe ทานเทปปันยากิแบบธรรมดามันเชยไปครับ ห้องนี้เราจะได้นั่งทานเทปปันยากินเหนือน้ำจากพ่อครัวฝีมือดีระดับตำนาน

อ้อ  เกือบลืม ผักของที่นี่เค้าก็ปลูกเอง ปลอดสารพิษ 100% นะจ๊ะ

นอกจากห้องอาหาร 12 ห้อง เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีบาร์เครื่องดื่มมากถึง 7 บาร์ด้วยกัน สายแฮงค์เอาท์ไม่ควรพลาดมากๆ ผมจะขอพูดถึงจุดเด่นแต่ละบาร์ให้ฟังนะครับ ใครชอบแฮงค์เอาท์แบบไหนไปบาร์นั้นเลย

1.Fung Bar บาร์แฮงค์เอาท์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหาด ลมตึง บรรยากาศสุดๆ ตกกลางคืนมีดนตรีสดขับกล่อม

2.Dhoni Bar จุดเด่นของบาร์คือมีฮุคค่า กล้องสูบยาที่มีรสชาติแปลกๆให้ลูกค้าเลือกมากมาย

3.Laguna Bar บาร์นี้เหมาะกับสายชิลมากครับ ดื่มด้วย ว่ายน้ำด้วย ชมวิวไปด้วย

4.Pool Bar บาร์นี้เหมาะกับสาวๆที่รักสุขภาพมากครับ มีทั้งผลไม้ปั่นและม็อกเทลจากผลไม้เขตร้อน

5.Havana Club บาร์นี้จะคัดสรรไวน์อย่างดี และมีซิก้าร์นำเข้าจากคิวบาอีกด้วย

6.Sand Bar บาร์ริมหาด เหมาะสำหรับนั่งชิลเอ้าท์และชมภาพยนตร์ครับ

 7.Champagne Loft คอแชมเปญต้องมานั่งบาร์นี้เลยครับ มีแชมเปญให้เลือกค่อนข้างเยอะทีเดียว

สำหรับใครที่คิดว่า มาเที่ยวมัลดีฟ แล้วตอนกลางวันจะทำอะไรล่ะ ขอบอกเลยว่าที่นี่มีกิจกรรมเพียบ ที่จะทำให้คุณหายเบื่อแน่นอน ทั้งสปอร์ตเซ็นเตอร์ที่มีเครื่องออกกำลังกายให้เลือกหลากหลาย สระว่ายน้ำส่วนกลาง 4 สระ อ่างจากุซซี่ สระเด็ก สายเฮลท์ตี้ต้องชอบแน่นอนครับ โดยเฉพาะ SPA

ไม่เพียงแค่นี้ มาทะเลทั้งที ที่นี่ยังมีกีฬาทางน้ำให้คุณได้เล่นมากมายครับ เช่น สกี เรือใบ เซิร์ฟบอร์ด พายเรือคายัค ดำน้ำ โดยเฉพาะเรื่องแหล่งดำน้ำชมปะการัง หายห่วง เพราะ Kuramathi Sort Maldives มีห้อง Hyperbaric Chamber เป็นของตัวเอง เพียงเท่านี้ก็เป็นเครื่องการันตีได้แล้วว่า ปะการังของที่นี่สวยสุดใจแค่ไหน ทำให้นักดำน้ำจากทั่วโลกต่างหลังไหลมาพักที่ Kuramathi Sort Maldives กันอย่างไม่ขาดสาย เท่าที่มองเห็นด้วยสายตาในวันที่ผมไปแขกที่นี่ 95 % เป็นฝรั่ง ชาวเอเชียอย่างเราแทบหาไม่เจอ

นอกจากนี้ยังมีแพคเก็จพาไปเที่ยวเกาะท้องถิ่นๆต่าง ถ้าอยากตื่นเต้นหน่อย แนะนำให้เล่นพาราเซลเลยครับ แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่กิจกรรมของผู้ใหญ่นะครับ

ครอบครัวที่พาเด็กๆมาก็ไม่ต้องกลัวเบื่อเลย ที่นี่มี Kids Clubขนาดใหญ่ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ให้เด็กๆชมภาพยนตร์ เล่นเกมส์ล่าสมบัติ เล่นกีฬา และอื่นๆอีกมากมาย ที่ผมประทับใจมากๆคือ สำหรับเด็กอายุ 0-3 ขวบ เราสามารถขอพี่เลี้ยงได้ด้วย (แต่มีค่าบริการเพิ่ม) ที่ผมเล่ามาอาจจะยังไม่เห็นภาพกันเท่าไหร่ แต่แนะนำให้ไปลองครับ แล้วคุณจะได้รับความประทับใจกลับบ้านเหมือนผมแน่นอนครับ