จอร์เจีย ประเทศเล็กๆที่มีเสน่ห์สามารถดึงดูดนักเดินทางทั่วโลก

Last updated: 12 ต.ค. 2566  |  369 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จอร์เจีย ประเทศเล็กๆที่มีเสน่ห์สามารถดึงดูดนักเดินทางทั่วโลก

ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศเล็กๆที่ตั้งอยู่สุดขอบของทวีปเอเชีย การไปเที่ยวจอร์เจียจึงทำให้คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบยุโรปผสมผสานกับความเป็นโซเวียตได้อย่างลงตัว แถมค่าครองชีพก็ยังถูกอีกต่างหาก การเดินทางไปประเทศจอร์เจีย ยังไม่มีไฟล์ทบินตรง โดยสามารถเดินทางได้หลายโดยหลายสายบินเช่น สายการบินเตอร์กิซแอร์ไลน์แวะเปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้งที่เมืองอิสตัลบลู หรือสายการบินอาหรับอิมิเรต โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศดูไบ 1 ครั้ง จากนั้นก็ต่อเครื่องเข้าสู่เมืองทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย
จากนั้นก็ไปเที่ยวประเทศจอร์เจียกันเล้ยยยย มีที่ไหนบ้างแอดเอาที่เที่ยวเด็ดๆมาฝากค่าาา แต่ถ้าหากใครอยากไปเที่ยวจอร์เจียแต่ไม่อย่างยุ่งยากับการจองสิ่งต่างๆ และทำเพลนเที่ยวเอง การเที่ยวกับทัวร์ก็เป็นอีกทางนึงที่สะดวกสบายมากๆ หากใครสนใจทักอินบ็อกมาสอบถามข้อมูลได้เลยนะคะ มีเจ้าที่ค่อยให้ข้อมูลอยู่ค่า

  • หมู่บ้านมรดกโลก อุชกูลลิ (Ushguli)
    ชุมชนโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1996 หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในเขต Svaneti โดยหมู่บ้านจะตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา Shkhara สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,100 เมตร ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่สูงที่สุดในยุโรปและเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย


  • ชุมชนปล่องไฟ เมืองเมสเตีย(Mestia) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่ควรพลาด ที่ตั้งอยู่ระหว่างทางไปเมืองอุชกูลลี่ เอกลักษณ์ที่ชัดเจนและโดดเด่นของเมืองนี้ คือทุกๆ บ้านจะมีหอคอยขนาดใหญ่เห็นเด่นชัด ม้จะเป็นเมืองเล็กแต่บรรยากาศสวยงามและยิ่งใหญ่มาก รายล้อมด้วยไปด้วยภูเขาลูกโตและ มีพิพิธภัณฑ์ให้ศึกษาประวัติศาสตร์อยู่ 2-3 แห่ง


  • เมืองบาทูมิ (Batumi) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจอร์เจีย ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลดำทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจอร์เจีย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการเล่นการพนันอีกด้วย จนได้รับชื่อว่า ลาสเวกัสแห่งทะเลสีดำ เลยทีเดียว เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่บันเทิง Entertainment ต่างๆ มากมาย

  • เมืองบนเทือกเขาคาซเบกิ (Kazbegi)
    ตั้งอยู่บนภูเขาคาซเบก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัสทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจีย อยู่ไม่ไกลจาก เมืองทบิลิซี (Tbilisi) มากนัก และมีชายแดนทางตอนเหนือติดกับประเทศรัสเซียอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่ต้องนั่งรถโฟล์วีลขึ้นมาหรือเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลาเดินทางราว ๆ 1-2 ชั่วโมง เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวได้ให้ฉายาว่า เมืองสวรรค์ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีวิวบรรยากาศภูเขาที่ค่อนข้างสวยงาม ราวกับได้ขึ้นสวรรค์ สักครั้งในชีวิตต้องแวะมาให้เห็นกับตาให้ได้

  •   หมู่บ้านจูทา (Juta)
    หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาในเทือกเขาคอเคซัส ที่ใครๆ หลายคนยกให้มีความงามเทียบเท่าสวิสเลยทีเดียว ด้วยความที่มีวิวทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ฉากหลังเป็นยอดเขาสูงใหญ่อลังการมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี จึงทำให้ที่นี่เป็นจุดเดินเขายอดนิยมของนักผจญภัย

  • อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument)
    เป็นอนุสรณ์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1983 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ด้านในอนุสรณ์มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นภาพขนาดใหญ่ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของชาวรัสเซียและจอร์เจีย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยม เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดที่สามารถมองเห็นวิวเขาสวยๆ ที่รวมถึงหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ได้อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้